คนเป็นโรคกระเพาะกินอาหารอะไรได้บ้าง?

โรคกระเพาะ เดี๋ยวนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เมื่อรู้ตัวว่าเป็น ควรรีบไปพบแพทย์ให้รักษาอาการแต่เนิ่น ๆ กินยาตามที่แพทย์สั่งก็จะหายได้ภายในเวลา 2-4 สัปดาห์ มาทำความรู้จัก โรคกระเพาะ กันเถอะ

โรคกระเพาะ (Peptic Ulcer) มีชื่อเต็มว่า โรคแผลในกระเพาะอาหาร จะมีอาการปวดแสบ ปวดตื้อ ปวดเสียด หรือจุกแน่น ตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่ อาการปวดเหล่านี้เป็นได้ทั้งเวลาก่อนกินอาหาร หรือหลังกินอาหารใหม่ ๆ และเวลาท้องว่าง เช่น เวลาหิวข้าวตอนเช้ามืด หรือก่อนนอนตอนดึก ๆ ก็ปวดท้องโรคกระเพาะได้เช่นกัน โรคกระเพาะ จึงมักเกิดกับกลุ่มคนวัยทำงาน คนที่ขาดวินัยในการกินอาหารไม่ตรงเวลา

อาการปวดท้องนั้นมาจากภาวะมีกรดในกระเพาะอาหารมาก กรดนี้จะไปสร้างความระคายเคืองกระเพาะ จนทำให้เกิดแผลที่ผนังของกระเพาะอาหาร หรือที่ลำไส้เล็กตอนบน อาจเป็น ๆ หาย ๆ มักจะปวดราว  15 – 30 นาที วันละหลายครั้งตามมื้ออาหาร  อาการปวดท้องนี้จะบรรเทาลงถ้าได้กินข้าว ดื่มน้ำ ดื่มนม หรือกินยาลดกรด

คนที่เป็นโรคกระเพาะถ้าไม่ได้รับการรักษา  ดูแลตนเองให้ถูกต้อง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ เช่น เลือดออกในกระเพาะอาหาร (อาเจียนเป็นเลือด และถ่ายอุจจาระดำ) กระเพาะลำไส้เป็นแผลทะลุ (ปวดท้องอย่างรุนแรง หน้าท้องแข็ง กดเจ็บ) กระเพาะลำไส้ตีบตัน (ปวดท้องรุนแรง และอาเจียนทุกครั้งหลังกินอาหาร)

หลักโภชนาบำบัดในการดูแลตัวเอง คือ กินอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่อย่างสมดุล เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน เพื่อช่วยรักษาเนื้อเยื่อแผลในกระเพาะให้หายเร็วขึ้น และเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการหลั่งของกรดมากเกินไป

ข้อควรระวังเมื่อเป็นโรคกระเพาะ

ควรปฏิบัติตัวดังนี้ รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการแต่เนิ่น ๆ ไม่ควรซื้อยามากินเอง ไม่ใช้ยาลดกรดมากเกินควร เนื่องจากกรดในกระเพาะจะช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหาร เช่นเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี 12 ลดการเจริญของเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะ แบคทีเรียในอาหาร เมื่อตกถึงกระเพาะจะถูกกรดทำลาย จึงช่วยป้องกันแบคทีเรียที่ก่อสารเกิดมะเร็ง การใช้ยาลดกรดมากจึงไม่ดีต่อระบบย่อย

และสำคัญที่สุดไม่พกพาความเครียดกลับมาบ้านด้วย  แม้ความเครียดจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิด โรคกระเพาะ แต่ถ้ามีความเครียดจะทำให้หายช้า และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ช้าโรคกระเพาะก็จะหายไปได้เองค่ะ

 

This entry was posted in สุขภาพ and tagged . Bookmark the permalink.

Comments are closed.